เผยความจริงของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ เค้าต้องทำอย่างไรกันบ้าง?

By autobot - 17:06:00

รื่องราวเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ หรือตลาดการเงิน นับเป็นหัวข้อที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และนี่คือประเด็นน่าสนใจที่เราหยิบยกมาพูดคุยกันในครั้งนี้

  • คุณเคยนึกสงสัยกันหรือไม่ว่าบรรดาชายมาดเท่พร้อมคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่เห็น ๆ กันในโฆษณานั้นเป็นใคร?
  • ชีวิตของเทรดเดอร์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร?
  • อะไรกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในการซื้อขาย?

จะว่าไปก็นับว่าไม่ผิดที่คิดจะสงสัยและมีคำถามเหล่านี้ขึ้นมา แต่ทว่าคำตอบจริง ๆ นั้นต้องบอกว่ามันยากที่จะตอบ ส่วนหนึ่งก็เพราะความที่วงการนี้มีเรื่องราวที่ไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอกอยู่อีกมาก และ อีกส่วนก็เกิดจากเทรดเดอร์เองก็ไม่ประสงค์ที่จะแบ่งปันเรื่องราวที่แท้จริงในที่สาธารณะกัน
และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเราจึงอยากนำประเด็นนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเราเห็นเทรดเดอร์จำนวนมากที่พยายามไปให้ถึงฝั่งฝัน แต่ส่วนใหญ่แล้วปรากฏว่ามักทำกำไรแทบไม่ได้ หรือไม่ก็สูญสิ้นเงินลงทุนทั้งหมดไป เราหวังว่าเรื่องราวในบทความต่อไปนี้จะช่วยให้คุณรู้จักตนเองมากขึ้นว่าการซื้อขายหรือการเทรดนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ และ ทำให้คุณทำการเสี่ยงอย่างมีสติ
เทรดเดอร์รายย่อย หรือ Retail Forex Trader คืออะไร?
การซื้อขายฟอเร็กซ์สำหรับรายย่อยก็คือ การซื้อและขายค่าเงินหนึ่งเทียบกับอีกค่าเงินหนึ่งเพื่อแสวงหาผลกำไรจากความผันผวนของราคานั่นเอง
คำว่า “Forex” (ฟอเร็กซ์) นั้น ย่อมาจากคำศัพท์เต็ม ๆ ว่า “Foreign exchange” หรือแปลว่า การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่ว่าสิ่งที่ต่างไปจากกิจกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบดั้งเดิม (ซึ่งธนาคารดำเนินธุรกรรมนี้กับลูกค้ารายย่อย) ก็คือ การแลกเปลี่ยนในตลาดฟอเร็กซ์นี้เกิดในระดับสถาบันการเงิน ซึ่งธนาคารทั้งหลายจะดำเนินกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับธนาคารอื่น ๆ (เป็นตลาด interbank หรือ ตลาดระหว่างธนาคารต่าง ๆ นั่นเอง)

ตลาดฟอเร็กซ์ตั้งอยู่ที่ไหน ?
ตลาดฟอเร็กซ์นี้ไม่มีสถานที่หรือบริเวณซึ่งจำเพาะเจาะจงให้เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนค่าเงิน แต่ตลาดนี้กลับมีเงินมหาศาลกว่า 4 – 5 พันล้านเหรียญหมุนเวียนในแต่ละวัน ซึ่งชายมาดดีใส่สูทดำที่เรามักเห็นกันในโฆษณานั้น อันที่จริงแล้วก็คือดีลเลอร์จากธนาคารนั่นเอง (และนี่ไม่ใช่เทรดเดอร์) โดยหน้าที่ของดีลเลอร์นั้นจะไม่มีการเก็งกำไรกับราคาค่าเงินในตลาด แต่แค่เพียงดำเนินการจับคู่คำสั่งซื้อขายระหว่างตัวลูกค้ากับธนาคารอื่นที่เป็นคู่สัญญาฝั่งตรงข้ามกับลูกค้าของพวกเขา หน้าที่ของดีลเลอร์โดยหลัก ๆ แล้วมีเพียงเท่านี้ แต่ในบางครั้งดีลเลอร์อาจมีการเก็งกำไรในค่าเงินได้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
ดีลเลอร์เหล่านี้มักถูกเรียกว่าเป็นผู้เล่นในตลาดที่เป็น “ฝั่งขาย”

ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับเทรดเดอร์ขนาดเล็ก
เทรดเดอร์เหล่านี้จะเป็นผู้ดำเนินการส่งคำสั่งในนามลูกค้าของพวกเขา ซึ่งลูกค้าอาจเป็นนักเก็งกำไร เช่น จอร์จ โซรอส เป็นต้น
บางครั้งลูกค้าของพวกนี้ก็จะเป็นบริษัทที่ขนาดเล็กกว่าซึ่งให้บริการสภาพคล่องแก่เทรดเดอร์ที่เป็นรายย่อย บริษัทเหล่านี้จะเรียกตนเองว่า
“โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์” ซึ่งเทรดเดอร์รายย่อยมักมีเงินลงทุนจำกัดและไม่สามารถจะไปซื้อขายบนตลาดระหว่างธนาคารต่าง ๆ ได้เอง ดังนั้นเทรดเดอร์รายย่อยเหล่านี้จึงทำการซื้อขายโดยผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ตลาดฟอเร็กซ์ในระดับของตลาดระหว่างธนาคารต่าง ๆ
เราจะกลับมาพูดถึงเรื่องนี้กันให้ละเอียดขึ้นในบทความถัด ๆ ไป แต่สำหรับในตอนนี้คุณแค่ต้องรู้ว่า เทรดเดอร์ที่เป็นรายย่อยก็สามารถเก็งกำไรโดยใช้ราคาตลาดในราคาเดียวกันกับผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์มืออาชีพได้

การซื้อขายฟอเร็กซ์ของเทรดเดอร์รายย่อยนั้นมีลักษณะอย่างไร ?
ในทางเทคนิคแล้ว การซื้อขายฟอเร็กซ์นั้นไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตและเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปสักเครื่องหนึ่งเลย ซึ่งภาพลักษณ์ของการใช้ชีวิตอันแสนน่าดึงดูดนี้ก็มักปรากฏตามแหล่งขายภาพประกอบโฆษณาและมักถูกหยิบยกมาใช้อ้างอิงจากบรรดากูรูที่หาเลี้ยงชีพด้วยการขายคอร์สและหนังสือคู่มือต่าง ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่?

ก่อนที่เราจะไปพูดถึงลักษณะการใช้ชีวิตที่แท้จริงของเทรดเดอร์ ต้องมาเข้าใจตรงกันก่อนว่า มันขึ้นกับเป้าหมายของคุณเองด้วย อันที่จริงแล้วถ้าคุณต้องการซื้อขายในลักษณะพาร์ทไทม์เพื่อสร้างรายได้เสริมจากงานประจำ ซึ่งก็คือเอาแค่พอสนุก ๆ ให้มีความเพลิดเพลิน ในกรณีนี้การซื้อขายสามารถทำได้ง่าย ๆ ทั้งจากในร้านกาแฟ ตามเก้าอี้ที่ชายหาด บนยอดภูเขาสูง หรือที่ใด ๆ ก็ได้บนโลก

ที่ทำงานของเทรดเดอร์
แต่ถ้าคุณต้องการจะทำการซื้อขายเพื่อเลี้ยงชีพจริงจังนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องมีที่ทำงานเป็นกิจจะลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่สำนักงานก็ตาม สำหรับนักเก็งกำไรรายย่อยที่ซื้อขายทุกวันก็มักจะต้องคอยซื้อขายตามช่วงเวลาที่ตลาดที่เขาสนใจนั้นกำลังคึกคัก และต้องคอยเฝ้าจับตาดูราคาในช่วงเวลานั้นเอาไว้ การมีหน้าจอสองถึงสามหน้าจอบนโต๊ะถือเป็นเรื่องปกติ เพราะจะช่วยให้สามารถเฝ้าติดตามราคาหลายตลาดได้ครอบคลุมและไม่พลาดโอกาสซื้อขายที่ดีไป

จะรักษาผลงานให้สม่ำเสมอได้อย่างไร
การรักษาความสม่ำเสมอของผลงานในการซื้อขายคือต้องสามารถสร้างกำไรได้ในแทบทุกสภาวะตลาด นั่นหมายความว่าคุณต้องคว้าโอกาสไว้ได้เป็นจำนวนมากและต้องลดจำนวนข้อผิดพลาดทั้งหลายลง นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเทรดเดอร์มืออาชีพ (ที่ประสบความสำเร็จ) จึงมีความจดจ่อ มีวินัย และ ทุ่มเทในตลาดนั้น ๆ และสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ในระหว่างที่ซื้อขายนั้นจะถือเป็นสิ่งรบกวนการทำงาน ดังนั้นเทรดเดอร์ที่มีชั่วโมงบินสูงมักจะปิดช่องทางการสื่อสารทั้งปวงเพื่อให้สามารถมีสมาธิอย่างเต็มที่ระหว่างซื้อขาย

คุณต้องการเป็นเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์หรือแบบเต็มเวลา ?
การที่จะสามารถ “เที่ยวไป เทรดไป” นั้นมักยากเกินกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง สำหรับการซื้อขายเพื่อให้ประสบความสำเร็จนั้นมักมีลักษณะคล้ายการทำงานประจำทั่วไป แต่เราก็ต้องยอมรับกันว่าในบางครั้ง เทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์ก็เอาชนะพวกเทรดเดอร์ที่ทำการซื้อขายทุกวันได้เหมือนกัน นี่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งก็รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าการเป็นเทรดเดอร์แบบเต็มเวลานั้นมักต้องรับมือกับความกดดันเชิงจิตวิทยามากกว่า

ดังนั้นแล้วก่อนอื่นให้ลองคิด ๆ ดูว่า คุณมองเห็นตนเองเป็นเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์หรือแบบเต็มเวลา?

การซื้อขายฟอเร็กซ์มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นหรือไม่ ?
สำหรับใครที่เข้ามาในตลาดนี้เพราะหวังว่าจะได้เจอกับความตื่นเต้นเร้าใจ พวกคุณก็จะได้เจอจริง ๆ แต่สำหรับใครที่ต้องการกำไรอย่างยั่งยืนนั้นจะเข้าใจในที่สุดว่าการซื้อขายฟอเร็กซ์นี้เป็นกิจกรรมที่ทำซ้ำไปซ้ำมา และบางครั้งก็นับเป็นเรื่องน่าเบื่อ

คุณควรต้องดำเนินการไปตามแผนการที่วางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ และต้องทำการค้นคว้า บริหารเงินทุนหน้าตักอย่างเคร่งครัด เพื่อจะอยู่รอดในตลาดได้ การซื้อขายอย่างมืออาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรมากมาย ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเทียบได้กับการขับรถแข่ง ที่แม้ว่ามันอาจเครียดกดดันเพียงใด แต่คนขับก็จำเป็นต้องคอยดูอารมณ์ตามความคิดของตนให้ทันและต้องมีสมาธิ 100% เพื่อให้สามารถเอาชนะมีชัยชนะเหนือคู่แข่งได้
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเช่นนี้ได้ และในบางครั้งแม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพก็รับมือกับความกดดันแบบนี้ไม่ไหว
แต่ว่าถ้าเรื่องแบบนี้มันดูหนักหนาเกินไป ก็ไม่เป็นไร เพราะคุณยังเลือกที่จะเป็นเทรดเดอร์แบบ “พาร์ทไทม์” ได้ ในกรณีนี้ก็ต้องบอกว่ากำไรที่คุณได้ก็จะไม่แน่นอน แต่หลาย ๆ คนก็มีจุดเริ่มต้นจากการที่เป็นเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์กันมาก่อน

เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทำเงินกันได้เท่าไหร่ ?
นี่เป็นส่วนที่นับว่ายากที่สุดของบทความนี้ แต่เราก็เข้าใจว่าเป็นส่วนที่ผู้อ่านมากมายอยากทราบกันมาก สำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนั้น ผลตอบแทนประมาณ 5-7% ต่อเดือน นับว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐาน แต่สำหรับผู้ใดที่รับความเสี่ยงได้มาก ก็อาจสร้างผลตอบแทนได้ถึง 10-20% ต่อเดือน แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องมีทักษะและความอดทนด้วย สำหรับเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์นั้นจะไม่มีผลตอบแทนรายเดือนที่แน่นอน พวกเขาอาจซื้อขายอยู่ 6-8 เดือนโดยไม่สร้างกำไรเลยสักนิด แล้วในทันทีทันใดก็ซื้อขายไปตามแนวโน้มจนสร้างกำไรได้เป็นเท่าตัวของเงินลงทุนในแค่ 2-3 เดือน

กำไรต่อเดือนมักเกิดขึ้นจากการซื้อขาย2-3 คำสั่ง
เมื่อเราพูดถึง “ผลตอบแทนต่อเดือน” เราจะตั้งสมมุติฐานว่ากำไรต่อเดือนนั้นเกิดขึ้นได้จากคำสั่งซื้อขาย 2-3 คำสั่ง โดยถ้าหากคุณซื้อขายทุกวัน ซึ่งก็ประมาณ 20 คำสั่งต่อเดือน จะพบว่ามักมี 2 คำสั่งที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้คุณ มี 8 คำสั่งที่แค่เท่าทุน และ อีก 10 คำสั่งที่ได้กำไรหรือขาดทุนเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ

จะเรียนรู้เรื่องการซื้อขายต้องทำอะไรบ้าง?
เมื่อพูดถึงผลกำไร เราจำเป็นต้องเตือนก่อนว่าที่อธิบายมาทั้งหมดเบื้องต้นนี่ถือเป็นเรื่องปกติของเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ซึ่งรู้วิธีการซื้อขายที่สร้างกำไรและสามารถปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้ได้
แต่สำหรับเทรดเดอร์ระดับอื่น ๆ อัตราการอยู่รอดในตลาดจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่ได้แย่เท่าที่หลายคนเข้าใจกัน หรือในอีกนัยหนึ่ง ไม่ใช่เทรดเดอร์กว่า 99% จะล้มเหลว เพียงแต่หลายคนก็เป็นแค่เทรดเดอร์ที่มีผลงาน “เท่าทุน” อยู่เป็นเวลาหลายปี ซึ่งแม้จะไม่สร้างผลกำไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่ก็ประครองตัวให้อยู่รอดได้เรื่อย ๆ

สถิติของการอยู่รอดในตลาด
โดยสรุปแล้ว สถิติของการอยู่รอดในตลาดของการซื้อขายฟอเร็กซ์ก็ใกล้เคียงกับธุรกิจประเภทอื่น ๆ มีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนไม่มากในวงการเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จใช่หรือไม่? มีหลายบริษัทที่ทุ่มลงทุนไปแต่มีแค่น้อยรายที่ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับบริษัทใดที่ไม่ได้ต้องการจะตั้งเป้าให้ตนเองเป็น เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ รายถัดไป ก็ยังสามารถสร้างผลกำไรและรายได้ให้เกิดขึ้นได้สำเร็จในตลาดเฉพาะทางของตนเอง นี่ก็เป็นเรื่องเดียวกันสำหรับเทรดเดอร์ ไม่มีใครรับประกันได้หรอกว่าคุณจะกลายเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จและมีรายได้มหาศาล แต่ถ้าคุณพยายามอย่างเต็มที่ อย่างน้อยคุณก็จะยังสามารถเป็นเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์ที่มีความสามารถได้

ในเชิงสถิติแล้ว ต้องใช้เวลานานนับหลายปีเพื่อสั่งสมประสบการณ์ และถ้าหากคุณฝึกฝนอย่างมีลำดับขั้นตอน คุณจะสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นมาก และไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าพยายามแอบมองหาทางลัดที่เน้นผลลัพธ์ระยะสั้น


รู้เคล็ดลับ
การพัฒนาในทักษะการซื้อขายนั้นไม่ใช่ว่าคุณจะสร้างรายได้ $1 ต่อวัน แล้วจะพัฒนาเป็นสร้างรายได้ $2, $5, $10 และ กลายเป็น $100 ต่อวันในที่สุด แต่มักจะเป็นกรณีที่คุณไม่สามารถสร้างรายได้อะไรได้เลยเป็นเวลานานอยู่ชั่วระยะหนึ่ง และในท้ายที่สุดก็พลัน “รู้เคล็ดลับ” ขึ้นมา แล้วจึงเริ่มซื้อขายให้เกิดกำไรได้ในที่สุด การซื้อขายให้ประสบความสำเร็จนั้นอาจไม่ต้องซับซ้อนแต่จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษบางประการ เช่น การคิดบนหลักของความน่าจะเป็น ซึ่งพวกเรามักไม่ได้ถูกสอนมาให้คิดบนหลักนี้ และ จำเป็นต้องอาศัยเวลาในการหมั่นฝึกฝนหลักการนี้ให้คุ้นเคยซึมซับอยู่ในสมอง

บทสรุป:
การซื้อขายในระดับมืออาชีพนั้นมีลักษณะคล้ายการทำงานประจำมากกว่าจะเป็นการใช้ชีวิตแบบลักษณะที่หรูหรา
การเรียนรู้การซื้อขายนั้นต้องการแรงกระตุ้นจูงใจ ต้องมีเวลาว่าง ต้องพร้อมที่จะเสี่ยง และการวางเงินของคุณลงไปเสี่ยง และนอกจากนี้ยังต้องการทักษะพิเศษที่จำเพาะเจาะจงซึ่งไม่สามารถฝึกฝนกันได้ชั่วข้ามคืน จงเผื่อใจที่จะทำทุก ๆ อย่างเพื่อให้สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
มันไม่จำเป็นว่าถ้า “ทำไม่ได้แล้วก็คือล้มเหลวโดยสิ้นเชิง. ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ เพราะคุณก็ยังสามารถเป็นเทรดเดอร์แบบพาร์ทไทม์ หรือ เป็นนักลงทุนได้ ถ้าคุณไม่ได้ต้องการจะซื้อขายฟอเร็กซ์เพื่อเลี้ยงชีพ

  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น